ภาพยนตร์ Demon Slayer หรือ ดาบพิฆาตอสูร เตรียมแซงหน้า สปิริตอเวย์ ในฐานะภาพยนตร์ที่ทำ รายได้ สูงสุดในประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม สำนักข่าว เดอะ เจแปน ไทมส์ รายงานว่าภาพยนตร์ ดาบพิฆาตอสูร (Demon Slayer, Kimetsu no Yaiba) ที่เข้าโรงภาพยนตร์ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา
ได้กวาดรายได้ในประเทศเป็นเงินไปแล้วมากกว่า 8 พัน 5 ร้อยล้านบาท
เข้าใกล้ สปิริตอเวย์ (Spirit Away) ภาพยนตร์การ์ตูนจากสตูดิโอ จิบลิ และเป็นผู้ถือสถิติหนังที่ทำรายได้มากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ที่โกยเงินเกือบ 9 พันล้านบาทnซึ่งรายได้ดังกล่าวยังไม่ได้รวมรายได้ที่มาจากต่างประเทศ โดยในขณะนี้ ดาบพิฆาตอสูร ได้เข้าโรงภาพยนตร์ ในหลายประเทศแถบทวีปเอเชีย รวมถึงประเทศไทยด้วย ขณะที่ ประเทศแคนาดา และ สหรัฐอเมริกา มีกำหนดเข้าโรงภาพยนตร์ปีหน้า
ด้านนาย โทชิฮิโระ นากาฮามะ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ ของศูนย์วิจัย ได-อิจิ ไลฟ์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ดาบพิฆาตอสูรสร้างผลกระทบให้กับเศรษฐกิจในประเทศญี่ปุ่นราวๆ 7 หมื่นล้านบาท จากการขายสินค้าต่างๆที่เกี่ยวข้อง
ดาบพิฆาตอสูร เป็นเรื่องของ กลุ่มตัวเอกที่ต่อสู้กับปีศาจในรูปแบบต่างๆ เพื่อหาทางช่วยน้องสาวที่กลายเป็นปีศาจให้กลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง ได้เริ่มตีพิมพ์ครั้งแรกตั้งแต่ปี 2559 และในจำนวน 22 เล่มแรก มียอดขายมากกว่า 100 ล้านเล่ม ก่อนจะถูกดัดแปลงเป็นอนิเมชั่น และ หนังในเวลาต่อมา
ICC ได้ออกมาเปิดเผยว่า พวกเขาไม่สามารถฟ้องร้องประเทศจีน ในกรณีละเมิดสิทธิมนุษยชนใน ซินเจียงอุยกูร์ ได้ เนื่องจากจีนไม่ได้อยู่ในพื้นที่ปฏิบัติการของ ICC
เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม สำนักข่าว France24 รายงานว่า ศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ICC ได้ออกมา สามารถสั่งฟ้องประเทศจีน ในข้อกล่าวหาฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุและกักกัน ชาวมุสลิมที่อาศัยในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์
ทาง ICC ให้สาเหตุว่า เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ถือว่าอยู่ในพื้นที่ประเทศจีน ซึ่งอยู่นอกเหนือพื้นที่ปฏิบัติการของ ICC เนื่องจากประเทศจีนไม่ได้ลงนาม ธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตามทาง ICC กล่าวว่า พวกเขาไม่ปิดโอกาสที่จะสั่งฟ้องประเทศจีน หากมีหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดีเพิ่มเติมในอนาคต
ด้าน นาย รอดนีย์ ดิ๊กซอน นักกฏหมายที่พยายามยื่นเรื่องต่อ ICC ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวการ์เดียนว่า ทีมของเขาจะนำเสนอหลักฐานสำคัญที่เกี่ยวข้องกับคดีความดังกล่าว ในเดือนถัดจากนี้ ซึ่งพวกเขาตั้งเป้าที่จะให้มีการสืบสวนอย่างเต็มรูปแบบในอุยกูร์
ก่อนหน้านี้เคยมีเอกสารออกมาเปิดโปงว่าทางการจีนได้ทำการกักตัวชาวมุสลิมที่ค่ายกักกันในพื้นที่ดังกล่าวมากกว่า 1 ล้านคน นอกจากนี้ในเอกสารดังกล่าวยังเคยได้ระบุว่า มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างหนักในค่ายกักกันดังกล่าว อย่างไรก็ตามทางการจีนได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว พร้อมกล่าวว่าข่าวทั้งหมดเป็น “ข่าวปลอม” ที่สื่อต่างชาติสร้างขึ้นมาเพื่อสาดโคลนใส่รัฐบาลจีน
ประวัติ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ คนที่ 46 ของอเมริกา
คณะผู้เลือกตั้ง ได้ทำการลงเสียงให้ นาย โจ ไบเดน เตรียมเข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ในวันที่ 20 มกราคม ที่จะถึงนี้ และจาก ประวัติ ชีวิตของเขาทำให้เห็นว่าเขาผ่านมรสุมชีวิตมาไม่น้อย ประวัติ โจ ไบเดน – โจ ไบเดน นักการเมืองผู้คร่ำหวอดวงการเมืองสหรัฐมาอย่างยาวนาน เกิดที่รัฐเพนซิเวเนีย เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2485 ในปัจจุบันมีอายุ 77 ปี ซึ่งหากนายไบเดน สามารถคว้าเก้าอี้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในครั้งนี้ได้ เขาจะทำสถิติเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯที่มีอายุมากที่สุดเป็นประวัติการณ์
ไบเดนประกอบอาชีพเป็นทนายความตั้งแต่ปี 2512 และได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในคณะลูกขุนในปี 2513 ก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่งวุฒิสมาชิกเป็นครั้งแรกใน 2 ปีถัดมา ซึ่งนายไบเดน ถือเป็นวุฒิสมาชิกที่ดำรงตำแหน่งครั้งแรกด้วยอายุน้อยที่สุดเป็นอันดับ 5 โดยนายไบเดนชนะการเลือกตั้งอีก 5 ครั้ง
นอกจากนี้นายไบเดนยังเคยดำรงตำแหน่งในสมาชิกวุฒิสภาจากรัฐเดลาแวร์เจ็ดสมัยติดต่อกัน ระหว่างปี 2515 ถึง 2552 ในฐานะวุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครต
อย่างไรก็ตามใช่ว่าชีวิตของไบเดน จะโรยไปด้วยกรีบกุหลาบ เพราะเขาต้องเจอกับมรสุมครั้งใหญ่ในชีวิต เมื่อนีเลีย ฮันเตอร์ ภรรยาของเขา และนาโอมิ ลูกสาวของเขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 1972 ขณะที่โบ และฮันเตอร์ ลูกชายทั้ง 2 คนเขาได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุดังกล่าว
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของไบเดนอย่างมาก จนทำให้เขาเคยคิดฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดสะพานฆ่าตัวตาย ซึ่งสิ่งเดียวที่ช่วยชีวิตเขาไว้คือโบและฮันเตอร์ ลูกชายทั้ง 2 คนของเขา
นายไบเดนได้เข้ารับตำแหน่งเป็นรองประธานาธิบดี ในช่วงปี 2551 ควบคู่กับนายบารัค โอบามา ประธานิบดีผิวสีคนแรกที่เลือกเขาให้เข้ารับตำแหน่งดังกล่าว
โดย คณะเลือกตั้งได้เลือกนาย ไบเดน ให้เข้าดำรงตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคมนี้ ซึ่ง นาย ไบเดน ตั้งเป้าที่จะแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป
